HostSearch.co.th >
Web Hosting Articles
ถึงคราวที่จะต้องมี server เป็นของตัวเองแล้วสินะ
หลายคน และหลายองค์กร ที่มีเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อให้บริการแก่สมาชิก หรือลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยการใช้บริการ Web Hosting แบบ Shared Hosting เพื่อประหยัดงบประมาณในตอนที่เริ่มเปิดเว็บไซต์ พอนานวันเข้าเว็บไซต์ได้รับการพัฒนาเรื่อยๆ มีข้อมูลมากขึ้น มีคนเข้าชมมากขึ้น มีสมาชิกมากขึ้น รวมถึงขนาดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งไฟล์เว็บไซต์ ฐานข้อมูล และอีเมลล์ ก็จะเริ่มทำให้ประสบปัญหาต่างๆ นานาตามมา เช่น พื้นที่ไม่พอเก็บไฟล์เว็บไซต์ พื้นที่เก็บอีเมลล์เต็ม เว็บไซต์เปิดช้า โหลดนาน ปัญหาต่อมาก็คือ ถูกผู้ให้บริการระงับการให้บริการ และเรียกเก็บค่าบริการที่ใช้เกิน หรือถูกแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจที่สูงขึ้น พื้นที่มากขึ้น และแน่นอน แพง ขึ้นด้วย แต่ถ้าเว็บไซต์มีขนาดใหญ่ขึ้นต่อเนื่อง และมีผู้เข้าชมมากขึ้นเรื่อยๆ การชำระค่าปรับ หรือค่าบริการส่วนที่ใช้เกิน คงจ่ายไม่ไหว ส่วนใหญ่จึงลงเอยด้วยการเปลี่ยนแพ็กเกจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ปัญหาก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะการเปลี่ยนแพ็กเกจไม่อาจทำให้ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นหมดไปทั้งหมด เนื่องจากไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลง อัพเกรดบริการไปเรื่อยๆ บริการ Hosting ก็ยังคงเป็นแบบ Shared Hosting ซึ่งแก้ปัญหาได้เฉพาะส่วนการเพิ่มพื้นที่การให้บริการได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความเสถียร และความเร็วในการเข้าชมเว็บไซต์ ดังนั้นหลายเว็บไซต์ จึงมองถึงการใช้งาน Server แล้วเมื่อไหร่ดีหละ ที่จะถึงเวลาที่เว็บไซต์ของเราควรมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง
รวบรวมเหตุผลที่เราควรจะต้องมี Server เป็นของตัวเอง แบ่งเป็นข้อๆได้ดังนี้
1.ต้องการพื้นที่ในการใช้งาน ทั้งเว็บไซต์ อีเมลล์ และฐานข้อมูล ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น
2.ต้องการขยายการให้บริการปริมาณข้อมูลเข้าออก หรือ Data Transfer ให้มากขึ้น เพื่อรองรับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่มากขึ้น
3.ต้องการติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่นเฉพาะ ที่ผู้ให้บริการ Shared Hosting ไม่ได้ติดตั้งให้เมื่อใช้งานบริการ Shared Hosting เช่นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาเอง หรือแอปพลิเคชั่นที่ใช้กับเว็บไซต์ของเราเท่านั้น
4.ต้องการความเสถียรในการเข้าใช้งาน และเข้าหน้าเว็บไซต์ หากเป็น Shared Hosting อาจจะมีบางเว็บไซต์ของคนอื่น มีข้อผิดพลาดทำให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์มีปัญหาในการใช้งานและเข้าหน้าเว็บไซต์ของทั้งเซิร์ฟเวอร์ได้ และอีกอย่างคือการใช้งานอีเมลล์ ซึ่งสำหรับองค์กร หรือหน่วยงานที่ต้องการความรวดเร็ว และความแน่นอน การมี Server เป็นของตัวเองจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านนี้ได้อย่างแน่นอน
5.เพิ่มความปลอดภัยให้กับการทำงาน และเว็บไซต์ เพราะถ้าเป็น Server ของเราเอง ก็สามารถเลือกที่จะเปิด หรือปิดบางส่วนที่ไม่ใช้งานได้ (เช่น Port, หรือ Application ต่างๆ) เพื่อป้องกันการถูกโจมตี และลดการใช้งานทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์โดยไม่จำเป็น ทั้งในส่วนของอีเมลล์ รวมถึงฐานข้อมูลอีกด้วย
6.เพิ่มความเร็วในการใช้งาน และเข้าสู่เว็บไซต์ เพราะภายในเซิร์ฟเวอร์จะมีเพียงแค่เว็บไซต์ของเราเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องแย่งการใช้งานเซิร์ฟเวอร์กับเว็บไซต์อื่นๆ เหมือนใช้บริการ Shared Hosting
ทั้งนี้อาจมีสาเหตุ หรือเหตุผลบางอย่างของแต่ละคน แต่ละองค์กร หรือเว็บไซต์ที่ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งาน Server อีก เช่น ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท หรือองค์กร นั้นๆ
เมื่อรู้ถึงเหตุผลที่ต้องมี Server เป็นของตัวเองแล้ว ก็อยากจะแนะนำในการเลือกใช้งาน Server เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการใช้งาน Server ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าโดยส่วนใหญ่
การใช้บริการเครื่องเซิร์ฟเวอร์จะแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ได้แก่
1.บริการ Dedicated server เป็นลักษณะบริการเช่าใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์กับผู้ให้บริการต่างๆ ซึ่งมีข้อดีคือเราไม่ต้องจัดซื้อ และติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์เอง เพียงแค่เลือกแพ็กเกจ หรือรุ่นของเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการ แล้วจ่ายเงิน จากนั้นผู้ให้บริการจะทำซื้อ และติดตั้งให้เรา พร้อมใช้งาน ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจมีบริการอื่นๆ เสริมเพิ่มเติม เช่น ติดตั้งเว็บไซต์ ย้ายไฟล์เว็บไซต์จากที่เดิมมาให้ ฯลฯ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพราะที่ต้องทำมีเพียงแค่ จ่ายเงิน แต่ก็มีข้อด้อยตรงที่สิทธิ์ในตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไม่ใช่ของเรา เพราะเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นของผู้ให้บริการ นำมาให้บริการแก่ลูกค้าเท่านั้น
2.บริการ Co-Location เป็นบริการให้เช่าพื้นที่ในการวาง หรือติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ Internet Data Center (IDC) เท่านั้น ในส่วนของตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทางลูกค้า หรือผู้ใช้บริการจะต้องซื้อมาเอง ขั้นตอนคราวๆ ก็คือเราซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์มา สมัครใช้บริการ Co-Location และนำเครื่องฯ ไปติดตั้งที่ IDC หลังจากนั้นเราก็ใช้ Remote desktop connection เพื่อเข้าไปติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม หรือตั้งค่าต่างๆ ในตัวเซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้งานต่อไป โดยที่ผู้ให้บริการ Co-Location จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการใช้งานของเรา เนื่องจากลักษณะการให้บริการคือ ให้เช่าที่ในการวางเซิร์ฟเวอร์บนระบบอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ข้อดีก็คือ เครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นของเราเอง จะทำอย่างไรกับเครื่องก็ได้ และเมื่อเลิกใช้งานก็นำเซิร์ฟเวอร์กับไปใช้งานอื่นต่อได้ แต่ข้อเสียคือ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ (ซึ่งอาจจะต้องจ้างคนเพิ่ม) เนื่องจากจะต้องทำเองทั้งหมด ตั้งแต่ติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่น แบ่งพื้นที่ในการเก็บไฟล์เว็บไซต์ บริหารจัดการ ดูแล และแก้ไขในกรณีเซิร์ฟเวอร์มีปัญหาอีกด้วย
จากข้อมูลข้างต้นนี้ หวังว่าจะช่วยให้รู้ถึงเหตุผล และรู้ว่าถึงเวลาหรือยังที่เราควรจะมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บไซต์ของเรา และช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกใช้บริการอย่างใด อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบริการ Dedicated server หรือ Co-Location ทั้ง 2 บริการนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียกันได้ เนื่องจากเป็นบริการคนละรูปแบบ เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา และเว็บไซต์ของเรา เท่านั้นเอง