HostSearch.co.th > Web Hosting Articles

เว็บโฮสติ้งของไทยหรือของต่างประเทศน่าใช้กว่ากัน

พูดได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างในการใช้บริการโฮสติ้ง คือจะใช้บริการกับผู้ให้บริการในไทย หรือในต่างประเทศดี หลายคนใช้วิธีการหาโฮสติ้งด้วยวิธีการ search หาจาก Google จะเห็นว่ามีผลการค้นหาผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งออกมาเป็นล้าน (จริงๆ เป็นหลักร้อยล้าน) ซึ่งก็จะมีทั้งผู้ให้บริการในไทย และต่างประเทศ ทำให้มีตัวเลือกมากจนเกิดความยากในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ ในหัวข้อนี้จึงขอแนะนำวิธีการเลือกใช้บริการระหว่าง ผู้ให้บริการในไทย และผู้ให้บริการต่างประเทศ ดังนี้

กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมเว็บไซต์
เหตุผลหลักอย่างแรกที่อยากให้ความสำคัญคือ เรื่องกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าของบริษัท-องค์กร ที่จะเข้าชม หรือใช้งานเว็บไซต์ของเรา เนื่องจากที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ที่เราใช้บริการโฮสติ้งนั้น มีผลกับความเร็วในการเข้าชม หรือใช้งานเว็บไซต์ อธิบายง่ายๆ คือ ถ้ากลุ่มคนส่วนมากที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เราควรใช้บริการโฮสติ้งที่มีเซิร์ฟเวอร์ ให้บริการอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือใกล้เคียง เช่นเดียวกันในกรณีที่ผู้ชมเว็บไซต์เราส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย ก็ควรใช้บริการกับผู้ให้บริการที่มีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย เพื่อความรวดเร็วในการเข้าถึง เข้าชมเว็บไซต์ เพราะการติดต่อกันระหว่างบริการอินเตอร์เน็ตของผู้เปิดชมเว็บไซต์ กับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการโฮสต์ จะเป็นการติดต่อในรูปแบบภายในประเทศ ซึ่งจะมีความเร็วมากกว่าการติดต่อกันข้ามประเทศ

การติดต่อสื่อสารกับผู้ให้บริการ
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการตัดสินใจเลือกใช้บริการระหว่างผู้ให้บริการในไทย หรือต่างประเทศ ก็คือการติดต่อสื่อสาร เนื่องจากการติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นในการใช้บริการเว็บโฮสติ้ง เริ่มตั้งแต่สอบถามข้อมูลก่อนตัดสินใจใช้บริการ ไปจนถึงบริการหลังการขาย แจ้งปัญหาการใช้งานต่างๆ ซึ่งการใช้บริการ support นี่แหละเป็นตัวตัดสินสำคัญว่าโฮสไหนบริการดีหรือไม่ดี และแน่นอนว่าคุณจะต้องใช้บริการหลังการขายมากกว่าก่อนการขายมาก

ถ้าหากคุณถนัดใช้ภาษา ต่างประเทศ เรื่องนี้อาจไม่ใช่ปัญหานัก แต่หากคุณไม่สามารถพูดโต้ตอบในภาษาต่างประเทศ ได้อย่างคล่องแคล่ว เรื่องนี้อาจเป็นปัญหาใหญ่ได้ หากคุณต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่คล่องแคล่วในการคุยโทรศัพท์ ในภาษาต่างประเทศ คุณอาจเลือกการติดต่อสื่อสารกับผู้ให้บริการต่างประเทศ ผ่านทาง Email หรือระบบ Ticketing System ซึ่งเป็นวิธีที่โฮสในต่างประเทศนิยม โดยเป็นการสื่อสารในลักษณะทางเดียวคือ เราส่งไปแล้วต้องรอฝ่ายรับเปิดอ่าน และต้องรอตอบกลับ ไม่ต้องโต้ตอบทันทีเหมือนโทรศัพท์ แต่ก็อาจทำให้มีความล่าช้าในการติดต่อสื่อสาร

ผู้ให้บริการในไทย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ (เกือบทั้งหมด) จะแจ้งเบอร์โทรศัพท์ (รวมถึงอีเมลล์ และระบบ Ticketing system) และใช้ภาษาไทยในการติดต่อสื่อสาร ทำให้สารมารถติดต่อสื่อได้ทันท่วงที และโต้ตอบได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในการแก้ไขปัญหา หรือสอบถามข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม

ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ
สำหรับความน่าเชื่อถือในตัวผู้ให้บริการทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ให้บริการโฮสติ้ง ควรมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท, มีลูกค้ารายใหญ่ หรือสำคัญๆ ใช้บริการอยู่ โดยสังเกตุได้จากโลโก้ แบนเนอร์ หรืออาจเป็นคำติชมของลูกค้า ที่ผู้ให้บริการมักนำมาโชว์บนหน้าเว็บ และควรมีองค์กรหน่วยงาน รับรองการให้บริการ ในต่างประเทศก็จะเป็นหน่วยงานของแต่ละประเทศ สำหรับในประเทศไทยดูได้จากเครื่องหมาย Registered ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งจะออกให้แก่ผู้ทำธุรกิจการค้าทางอินเตอร์เน็ต หรือผ่านเว็บไซต์ ที่ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็น่าจะเพิ่มความมั่นใจ และความเชื่อมั่นในการเลือกใช้บริการได้เป็นอย่างดี

อัตราค่าบริการ หรือราคา
สิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับการตัดสินใจของคนไทย ไม่ว่าจะซื้อสินค้า หรือบริการใด ก็คือ “ราคา” หรือ “ค่าบริการ” ในกรณีบริการโฮสติ้งก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อเปรียบเทียบอัตราค่าบริการระหว่าง ผู้ให้บริการในไทย กับผู้ให้บริการต่างประเทศ จะเห็นได้ชัดว่าบริการจากผู้ให้บริการในต่างประเทศจะมีค่าบริการที่ถูกกว่าผู้ให้บริการในไทย ปัจจัยหลักก็มาจากต้นทุนที่ต่ำกว่าทั้งอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ อีกทั้งในต่างประเทศยังมีการแข่งขันในธุรกิจเว็บโฮสติ้งที่สูงกว่าในประเทศไทย ทำให้เมื่อมีการแข่งขันสูง ก็จะทำให้ราคาต่ำลง แต่อย่างไรก็ไม่อยากให้มองว่าอัตราค่าบริการ หรือราคาค่าบริการเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง เพราะสุดท้ายหากเลือกราคาถูก แล้วไปเจอกับบริการที่ไม่ดี มีปัญหาในการใช้งานตลอด ก็ทำให้เราต้องเปลี่ยนผู้ให้บริการอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เสียทั้งเงิน และเวลาในการดำเนินการอีกด้วย ดังนั้นจึงอย่ามองเรื่องราคาเป็นหลัก ให้มองเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ แต่ควรมองหาบริการเว็บโฮสติ้งที่ดี มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม จะดีที่สุด

การชำระค่าบริการ และเอกสารทางการเงิน
เป็นสิ่งเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ใช้บริการโฮสติ้ง ที่เป็นบริษัท หรือองค์กร (สำหรับบุคคลทั่วไป อาจไม่ต้องกังวล หรือให้ความสำคัญกับส่วนนี้) เนื่องจากมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการในไทย หรือผู้ให้บริการในต่างประเทศ

เริ่มตั้งแต่การชำระค่าบริการ โดยหากเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศ ส่วนมากมักจะให้ชำระค่าบริการออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต หรือผ่านระบบการชำระเงินต่างๆ เช่น Paypal เป็นต้น ซึ่งการชำระค่าบริการรูปแบบดังกล่าว จะไม่สอดคล้องกับระบบการชำระเงินค่าบริการส่วนใหญ่ ของบริษัทในประเทศไทย ที่เป็นชำระโดยการทำเช็คสั่งจ่ายให้กับผู้ให้บริการ หลังจากนั้นก็จะเป็นการนัดรับเช็ค หรือฝากเช็คเข้าบัญชีธนาคาร ของผู้ให้บริการต่อไป และในขั้นตอนการเบิกจ่ายจะต้องใช้เอกสารประกอบการเบิกจ่าย จากผู้ให้บริการ เช่น ใบเสนอราคา หรือใบแจ้งหนี้ ซึ่งหากเป็นผู้ให้บริการในไทย ก็จะสามารถออกเอกสาร และให้สามารถดำเนินการชำระค่าบริการตามขั้นตอนข้างต้นได้ แต่หากเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศจะไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวได้ รวมถึงการออกเอกสารสำคัญอย่างใบเสร็จรับเงิน ที่ฝ่ายบัญชีการเงินของบริษัทผู้ใช้บริการ ต้องการเพื่อใช้ประกอบในการจัดทำบัญชีอีกด้วย

ข้อแนะนำเพิ่มเติม
สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือ ผู้ให้บริการในประเทศไทย อาจมีเซิร์ฟเวอร์ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศไว้บริการ เช่นเดียวกับผู้ให้บริการต่างประเทศ อาจมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ในประเทศตนเอง และประเทศอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์อย่างมาก หากศึกษาหาข้อมูล หรือสอบถามจากผู้ให้บริการ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เราได้ใช้บริการโฮสติ้งบนเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ (ตามความต้องการของเรา) จากผู้ให้บริการในประเทศไทยก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศเสมอไป

สรุปง่ายๆคือว่าถ้าใช้บริการกับโฮสไทยได้ก็ใช้โฮสไทยดีกว่า แต่ถ้าหากว่าเว็บเรามีคนชมเว็บส่วนมากอยู่ในต่างประเทศ ก็ให้ใช้บริการของต่างประเทศ หรือใช้โฮสไทยที่เช่า servers ไว้ในต่างประเทศ หากต้องการ ข้อมูลโฮสต่างประเทศว่าที่ไหนดีให้ดูจาก HostSearch.com ได้เลยครับ