HostSearch.co.th > Web Hosting Articles

7 คำถามยอดฮิต ก่อนเลือกโฮสต์

สำหรับหลายคนที่กำลังมองหาเว็บโฮสติ้ง ให้กับเว็บไซต์ตัวเอง หรือองค์กร คงจะมีคำถามคาใจ ข้อสงสัยมากมาย ก่อนเลือกใช้บริการโฮสติ้ง ทำให้บางคนคิดว่าเป็นเรื่องยากไปเลยในการหาโฮสติ้งมาใช้งาน ดังนั้นจึงอยากบอกถึงคำถามยอดฮิต และวิธีช่วยการตัดสินใจ เพื่อให้ง่ายขึ้นในการเลือกโฮสติ้ง ขอรวบรวมเป็น 7 คำถามยอดฮิต ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการโฮสติ้งละกัน

1. เข้ากันได้ไหมเนี่ย
กังวลว่าเว็บไซต์ของเราจะใช้งานบนโฮสติ้งที่เราจะเลือกได้ไหม ปัญหานี้ถ้าทำเว็บ เอง หรือเป็นโปรแกรมเมอร์ คงไม่มีปัญหา สำหรับคนที่ไม่ได้ทำเว็บ เอง วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ถามกับคนทำเว็บ ว่าโฮสต์ที่เราหามาให้ใช้งานกับเว็บ ได้ไหม หรือให้เขาแนะนำมาให้เลย อีกวิธีที่จะรู้ได้ก็คือ ลองใช้งานก่อนเลย แต่กรณีนี้ผู้ให้บริการโฮสติ้งต้องยอมให้ทดลองด้วยนะ (บางแห่งไม่ให้ทดลอง)

2. ต้องจดทะเบียนโดเมนเนมกับบริษัทโฮสต์นี้หรือเปล่า
เป็นข้อสงสัยฮิตๆ ลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่จะคิดกันว่าจดทะเบียนโดเมนเนมที่ไหนก็ต้องใช้โฮสต์ที่นั้น หรือหาโฮสต์ที่ถูกที่ดีได้ ก็ต้องจดทะเบียนกับที่นั้นด้วย ความคิดแบบนี้อาจจะมาจากการที่ผู้ให้บริการอยากขายบริการทั้ง 2 อย่างจึงบอกลูกค้าอย่างนั้น เพราะในความเป็นจริงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้บริการจดทะเบียนโดเมนเนม และบริการโฮสติ้งกับผู้ให้บริการเดียวกัน เช่น ก่อนหน้าที่จะทำเว็บ เราไปจดทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการ A และเมื่อทำเว็บ เสร็จแล้ว หาโฮสต์ และชอบใจบริการโฮสต์ของผู้ให้บริการ B ก็สามารถใช้งานได้ โดยไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

3. ราคาที่เห็นหน้าเว็บ มันสุทธิหรือยัง ยังมีอะไรอีก
คำถามที่สงสัยกันมาก ปัญหาอาจเกิดจากผู้ให้บริการที่ไม่ระบุให้ชัดเจน เช่น เมื่อระบุราคาค่าบริการเรียบร้อยแล้ว ก็ควรระบุว่า ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงระบุไปเลยว่า ราคานี้ต้องสั่งซื้อบริการ 1 ปีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของลูกค้าเอง คงต้องสังเกต หรือสอบถามจากผู้ให้บริการด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหลังจากตกลงปลงใจใช้งานแล้ว แต่ต้องมาเสียเวลาหาผู้ให้บริการใหม่เพราะค่าบริการที่ไม่ชัดเจน

4. เชื่อถือได้ไหมเนี่ย จะปิดบริการหนีเราไหม
เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่หลายคนต้องมีอยู่ในความคิดตอนตัดสินใจซื้อโฮสต์ โดยเฉพาะที่ซื้อบริการโดยไม่ได้คุยกับผู้ให้บริการก่อนเลย เพราะการซื้อบริการสามารถทำได้โดยการสั่งซื้อจากเว็บไซต์ ของผู้ให้บริการ และเมื่อเราชำระด้วยบัตรเครดิตเรียบร้อย ระบบของผู้ให้บริการก็จะส่งข้อมูลสำหรับการใช้งานโฮสต์มาให้ภายในเวลากำหนด แต่ปัญหาก็คือผู้ประกอบการโฮสติ้งนี้มีหลากหลายรูปแบบ โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดคือซื้อบริการโฮสติ้งต่อมาจากผู้ให้บริการอื่น หรือเรียกว่า “Reseller Hosting” ซึ่งนี้ก็เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพทั้งหลายหาเงินจากช่องทางนี้ โดยการซื้อ Reseller Hosting มาขายต่อ และเมื่อมีลูกค้าเยอะแล้ว ได้เงินเยอะแล้ว ก็ปิดหนีไปดื้อๆ ซึ่งก็สามารถทำได้โดยง่าย เนื่องจากไม่มีพันธะผูกผันใดๆ ดังนั้นหากต้องการความเชื่อมั่นในเรื่องนี้ก็ต้องหาผู้ให้บริการที่จดทะเบียนในรูปแบบบริษัท หรือหากเป็นผู้ให้บริการที่ไม่เป็นบริษัท ก็ควรจะมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง (ชนิดที่เรียกว่า ถ้าเราจะไปหาต้องไปหาได้) มีเบอร์โทรศัพท์พื้นฐานให้ติดต่อได้ (ถ้าผู้ให้บริการไหน มีแต่เบอร์มือถือ ให้คิดไว้ก่อนได้เลยว่ามีสิทธิ์ เกิดปัญหานี้ขึ้นได้แน่) และควรโทรติดต่อสอบถามก่อนจ่ายเงิน (ในกรณีผู้ให้บริการในไทย) เพื่อให้มั่นใจว่าเขามีตัวตนจริงๆ

5. การันตีคืนเงินจะจริงหรอ
ผู้ให้บริการหลายรายมักมีสัญลักษณ์ คืนเงินหากไม่พอใจ คืนเงินใน 30 วัน ฯลฯ เพื่อทำให้เราตัดสินใจซื้อบริการง่ายขึ้น เร็วขึ้น แต่พอเอาเข้าจริง เราต้องการขอเงินคืน ก็มีปัญหาเยอะ ไม่เข้าเงื่อนไข ขอคืนไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อเห็นสัญลักษณ์นี้ หรือข้อความนี้บนเว็บฯ ของผู้ให้บริการโฮสติ้ง ให้ตรวจสอบเงื่อนไขการขอคืนให้ดี หรือสอบถามจากผู้ให้บริการโดยตรงเลย ว่ามีเงื่อนไขยังไง เพราะเงื่อนไขนี้ก็เป็นประโยชน์ในกรณีที่เราไม่มั่นใจว่าเว็บฯที่เราสร้างเสร็จแล้วจะใช้งานกับโฮสต์นั้นๆ ได้ไหม ดังนั้นการได้ใช้งานจริงก็เป็นสิ่งที่ดี สำหรับผู้ให้บริการก็จะได้เป็นการแสดงให้เห็นว่าบริการของเขาดีอย่างไร รองรับเว็บไซต์ได้ไม่มีปัญหา

6. บริการ Support จะดีไหม จะล่ม จะดาวน์ไหม เข้าเว็บเร็วไหม
ทั้งหมดคือความไม่มั่นใจในบริการหลังการขาย ซึ่งจริงๆ ในส่วนนี้จะบอกยากว่าจะรู้ได้ยังไง เพราะต้องลองถึงรู้ดีที่สุด แต่สมัยนี้มีหลายวิธีที่เราจะรู้ได้ เช่นถามผู้ใช้ ผู้มีประสบการณ์ตรง หรือให้ง่ายกว่าคือ หาอ่านข้อมูลจากเว็บไซต์ เว็บบอร์ด หรือบล็อกต่างๆ ที่มีผู้มาเขียนรีวิวไว้ อย่างเช่นในส่วน web hosting reviews บน HostSearch.co.th นี้ วิธีนี้จะทำให้เราได้ข้อมูลจากหลากหลายผู้ใช้งาน และยังได้ดูรีวิว ของผู้ให้บริการหลายๆ รายด้วย


7. ใช้งานอีเมลล์บน Smart phone, Tablet ฯลฯได้ไหม
กลายเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วในปัจจุบันสำหรับ smart phone, tablet หรืออุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ต ทั้งเว็บไซต์ และอีเมลล์ ดังนั้นหลายคนจึงมองหาโฮสติ้งที่รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์เหล่านี้ เช่นสามารถเข้าเว็บ หรืออ่าน email ผ่าน iPhone ได้ไม่มีปัญหา ทั้งรับ และส่งอีเมลล์ ดังนั้นก่อนเลือกใช้บริการควรสอบถามจากผู้ให้บริการก่อนว่าสามารถใช้งานตามที่เราต้องการได้หรือไม่ เพื่อที่เราจะได้ใช้ประโยชน์เต็มที่อย่างที่เราต้องการ

สำหรับคำถามคาใจ ยอดฮิตทั้งหมดนี้ บางส่วนเราสามารถหาคำตอบได้ด้วยตนเอง หรือสอบถามผู้อื่น แต่ส่วนใหญ่ และเพื่อความมั่นใจ เราควรสอบถามโดยตรงไปยังผู้ให้บริการรายนั้นๆ เพื่อให้ตอบคำถามข้อสงสัยของเรา ก่อนเลือกใช้บริการ โดยหากเรากังวลว่าการโทรสอบถามจะไม่มีความน่าเชื่อถือ เราก็สามารถส่งคำถามผ่านทางอีเมลล์ไปที่ผู้ให้บริการ เพื่อได้รับคำตอบทางอีเมลล์ซึ่งจะเป็นลายลักษณ์อักษร ให้เราเก็บไว้ยืนยันกับผู้ให้บริการภายหลังได้ว่า เขาเคยยืนยันการใช้งาน หรือบริการอะไรกับเราไว้บ้าง ทั้งหมดนี้คงจะทำให้ผู้ที่สนใจ หรือกำลังเลือกหาบริการเว็บโฮสติ้งอยู่ ตัดสินใจ หรือเลือกใช้บริการโฮสติ้งได้อย่างถูกต้อง ตรงตามความต้องการ และคลายความสงสัยไปได้บ้างไม่มากก็น้อย